Main Menu

Recent posts

#1

TOYOTA COROLLA CROSS Hybrid Smart ในการเดินทางของคุณเหนือระดับยิ่งขึ้น กับรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งจะเปิดตัวได้ไม่นานมานี้ เป็นครั้งแรกของโลก ด้วยรูปลักษณ์ของตัวรถที่ดูทันสมัย เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ จะใช้งานในเมือง นอกเมือง สภาพถนนแบบไหน รุ่นนี้ก็เอาอยู่ทั้งหมด เรียกว่าเป็นรถที่ทำออกมาแล้วใช้ได้สารพัดประโยชน์จริง รายละเอียดของรุ่นนี้เป็นอย่างไรบ้าง เรามีข้อมูลมาให้ทุกท่านได้ตัดสินใจ
ขุมกำลังของ TOYOTA COROLLA CROSS Hybrid Smart

เครื่องยนต์
•   ใช้เครื่องยนต์ 2ZR-FXE แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว
•   ปริมาตรความจุของกระบอกสูบอยู่ที่ 1,798 ซีซี
•   กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 72 แรงม้า ที่/ 5,200 รอบต่อนาที
•   แรงบิดสูงสุดของเครื่องยนต์ 142/ 3,600 นิวตัน-เมตร/รอบต่อนาที
•   รองรับการใช้น้ำมัน E20
•   ความจุถังน้ำมัน 47 ลิตร
•   อัตราประหยัดน้ำมัน 23.3 กิโลเมตร/ลิตร

มอเตอร์ไฟฟ้า
•   ใช้เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัส 600 โวลต์
•   กำลังสูงสุด 53 กิโลวัตต์
•   แรงบิดสูงสุด 163 นิวตันเมตร

ดีไซน์ภายนอก
ไฟหน้าของรุ่นนี้ ได้ไฟหน้า LED แบบไฮบริดจ์ ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED LIGH GUIDING ไฟเลี้ยวด้านหน้าเป็นแบบ LED ระบบการเปิดปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ไฟท้ายเป็นแบบ LED กระจกมองด้านข้างมีไฟหน้าในตัว และพับเก็บอัตโนมัติเมื่อจอด ไฟเบรกดวงที่ 3 เป็นแบบ LED ใช้เสาอากาศแบบครีบฉลาม และแผ่นกันความร้อนที่ฝากระโปรง

ดีไซน์ภายใน
เบาะนั่งภายในรถเป็นเบาะหนังและวัสดุสังเคราะห์ เบาะนั่งด้านหลังสามารถพับแยกได้ พนักวางแขนด้านหน้า สามาถปรับเลื่อนได้ มือเปิดประตูเป็นโครเมียม แผงกั้นสัมภาระด้านท้ายรถ กระจกหน้าต่างพร้อมป้องกันการหนีบ 4 ตำแหน่ง กระจกแต่งหน้าบริเวณแผงบังแดด ระบบสตาร์ตแบบอัจฉริยะ ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย จะแสดงข้อมูลการขับขี่ MID ช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth สามารถเชื่อมโยงกับระบบ Apple Carplay มีระบบการโทรออกด้วยเสียงได้ ระบบเชื่อมต่อ T-Connect ลำโพง 6 ตำแหน่ง

ระบบความปลอดภัยของ TOYOTA COROLLA CROSS Hybrid Smart
ถุงลมนิรภัยระบบ SRS คู่หน้า ด้านข้าง ม่านคนขับ หัวเขาคนขับ และเบาะนั่งด้านหลัง ระบบความปลอดภัยก่อนการชน  รุ่นนี้มาพร้อมระบบเบรกแบบ(ABS) ป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรกแบบ(EBD) และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน ตัวช่วยควบคุมการทรงตัว(VSC) ระบบการช่วยออกตัวเมื่ออยู่บนที่ลาดชัน(HAC) เข็มขัดนิรภัยด้านหน้า 2 จุด และด้านหลัง 3 จุด เข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ กล้องมองขณะถอยหลัง และระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน

ราคา
TOYOTA COROLLA CROSS Hybrid Smart มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1,024,000 บาท


จากประสบการณ์ของผู้ที่ได้ใช้ มาแล้ว บอกเหมือนกันว่ารุ่นนี้สมกับการรอคอยจริงๆ เพราะว่ามีความพิเศษที่เหนือกว่ารุ่นอื่น เหมาะกับสภาพถนนทุกรูปแบบ ที่จำให้การเดินทางของคุณ กลายเป็นเรื่องสนุก และสบายทุกเส้นทาง หากท่านใดที่ได้ลองด้วยตัวเองสักครั้ง ต้องหลงรักรถนี้แน่นอน
#2


    รถยนต์ 2 ประตู หรือเรียกสั้นๆว่า รถ Coupé ที่กำลังได้รับความนิยมมากๆในปี 2023 นี้ อันที่จริงแล้วรถแนวนี้ได้รับความนิยมมานานแล้ว แต่ว่ายังไม่บูมในบ้านเราเท่าไหร่นัก สำหรับคำว่า Coupé เป็นภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า การตัด โดยเป็นการตัดให้รถสั้นลงจากเดิม เหลือเพียงแค่ 2 ประตูเพียงเท่านั้น สำหรับทรงของรถจะมีลักษณะคล้ายๆกับรถซีดานทั่วไป ที่ให้ความรู้สึกว่าเป็นแนวสปอร์ต พร้อมกับยังหรูหรามากกว่าด้วย ซึ่งบทความนี้จะมานำเสนอถึง 5 รุ่นรถ Coupé ที่น่าสนใจมากที่สุดของปี 2023 ให้รู้จักกัน

รถ Coupé ที่น่าสนใจมากที่สุดของปี 2023

1.    Mercedes-Benz C-Class Coupé
จะเรียกว่านี่คือเจ้าแรกๆที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในบ้านเราเลยทีเดียวกับรถแนว Coupe นี้ โดยรุ่นนี้เป็น 2 ประตู ที่มีจุดเด่นตรงเรื่องการดีไซน์ที่สวยงาม โดดเด่น ความโค้งมนที่เข้ากันเป็นอย่างดีตามสไตล์ของ Mercedes-Benz แล้วการออกแบบภายในก็ทำออกมาอย่างทันสมัยที่ลงตัว ส่วนเรื่องเครื่องยนต์หายห่วงกับชื่อค่ายนี้

2.    Audi TT
จัดว่านี่คือรถ Coupe ที่สวยอันดับต้นๆหากวัดกัน เพราะทางค่าย Audi พิถีพิถันในการออกแบบอย่างมาก การมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำให้การขับขี่สนุก รวดเร็ว เร้าใจมากยิ่งขึ้น โดยให้เครื่อง 2000 CC. Turbo 230 แรงม้า พร้อมเกียร์ S tronic 6 Speed แบบจัดเต็ม ความนิยมจึงไม่น้อยหน้าใคร

3.    Ford Mustang
มัสแตง คือรถ Coupe ที่หลายคนอยากจะได้มาครอบครองอย่างที่สุด เพราะความสวยงาม โฉบเฉี่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ รูปทรงของรถแนวสปอร์ตที่เยี่ยมยอด การันตีด้วยรางวัล รถสปอร์ต Coupe ที่ขายดีที่สุดในโลกถึง 4 ปีซ้อน แค่นี้ก็ไม่ต้องบอกอะไรกันมากแล้ว ว่าควรซื้อหรือไม่

4.    Mini Cooper
คลาสสิค นี่คือคำนิยามสั้นๆของ Mini Cooper ที่ถูกยกให้เรื่องนี้คืออันดับ 1 ของโลกยากที่จะหาค่ายไหนมาล้มได้ แล้วการทำรถ Coupe ก็ออกมาดีตามมาตรฐานของค่าย หากกำลังมองหารถ Coupe สไตล์น่ารัก ขับสนุก มีขนาดกระทันรัดคล่องตัว รุ่นนี้ให้ได้อย่างไม่มีผิดหวัง

5.    BMW 4 Series Coupé
รุ่นสุดท้ายคือ BMW แค่เห็นชื่อค่ายก็แทบจะไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากแล้วว่ารถจะดีแค่ไหน แล้ว BMW 4 Series Coupé ที่ออกมาก็ไม่ทำให้แฟนๆที่ตั้งตารอคอยต้องผิดหวังเลย ไม่ว่าจะความสวย ความเท่ ความแรง ความดุดัน ขนมาหมดแบบครบจบในคันเดียว ภายในหรูหราทันสมัยไม่มีตกยุค หากได้มาเป็นครอบครอง รับรองว่าโดดเด่นกว่าใครๆบนท้องถนนอย่างแน่นอน
#3

เกาะสีชัง เป็นเกาะทางภาคตะวันออกฝั่งอ่าวไทย ที่มีชื่อเสียงและสวยงามอีกเกาะหนึ่ง มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมที่เกาะนี้เยอะมาก เป็นเกาะที่มีความสะดวกสบายมาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ที่พัก อาหารการกิน รวมถึงบรรยากาศบนเกาะ ถ้าท่านใดที่ไม่อยากไปเที่ยวหรือเดินทางไกล อย่างคนที่อยู่ในกรุงเทพ ในเมืองต่างๆ มาเที่ยวที่เกาะสีชัง ก็สนุกไม่น้อยทีเดียว ก่อนอื่นเราลองมาดูรายละเอียดของเกาะแห่งนี้กันก่อนดีกว่า
 
กิจกรรมที่น่าสนใจ
สำหรับท่านที่เดินทางมาเที่ยวที่ เกาะสีชัง ที่นี่มีกิจกรรมหลายอย่างให้ท่านได้ลอง กิจกรรมที่ท่านไม่ควรพลาดก็คือ

•   เล่นน้ำทะเล น้ำทะเลที่นี่ต้องบอกว่าสวยงามมาก ใส่สนิท และมีทรายหาดที่ขาวสะอาดที่สุด ทรายก็ละเอียดเหมือนกับแป้ง หาดที่สามารถลองเล่นน้ำได้ก็คือ หาดถ้ำเขาพัง ท่านยายทิม เป็นต้น นักท่องเที่ยวที่อยากลงเล่นน้ำ จะมาที่จุดนี้เป็นส่วนใหญ่
•   ชมบ่อน้ำจืด แม้ว่าเกาะแห่งนี่จะล้อมรอบด้วยทะเล แต่บนเกาะก็ยังมีน้ำจืดให้อยู่บ้างเหมือนกัน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า บ่อน้ำผุด เป็นบ่อน้ำจืดที่ชาวบ้านมาตักไปใช้ดื่มกัน ซึ่งจะแบ่งไว้เลยว่า บ่อนี้ใช้ลงเล่นได้ บ่อนี้สำหรับเอาไว้กินเท่านั้น
•   ชมวิวที่ช่องเขาขาด เป็นจุดชมวิวที่สวยงามมาก โดยเฉพาะตอนพระอาทิตย์ตก จะมีนักท่องเที่ยวมานั่งรับลมเย็นเยอะมาก เหมาะกับการถ่ายรูปอย่างยิ่ง
•   ชมพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน เป็นศาลาเก่าแก่ของพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน มีการออกแบบที่สวยงามมาก เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะไทยและตะวันตก กลายเป็นความงดงามที่น่าทึ่งมากๆ
•   เคารพศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้การนับถือมาอย่างยาวนาน เรียกว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านที่นี่เลยก็ว่าได้ โดยศาลของเจ้าพ่อเขาใหญ่ เราจ้องเดินทางขึ้นเขาไปก่อน เพื่อไปสักการะ ด้านบนจะเป็นลักษณะของถ้ำ มีการตกแต่งแบบจีน ใครอยากสมหวังในเรื่องใดๆ ก็ตาม สามารถขึ้นมาขอพรที่นี่ได้เลย

การเดินทาง
สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสาร หรือขับรถจักรยานยนต์มาเองได้เลย ใช้เส้นทางบางนา-ตราด แต่หลังจากที่ถึงเกาะลอยแล้ว ต้องนั่งเรือข้ามฟากไปเกาะสีชังต่อ ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ก็จะถึงเกาะแล้ว

ค่าบริการในการเข้าชม ฟรี

ที่พักและอาหาร
ที่เกาะสีชังมีที่พักให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ท บ้านเช่า มีหลายขนาดหลายราคาให้เลือก บอกเลยว่าธรรมชาติบนนี้สวยงามมากๆ บรรยากาศก็เงียบสงบด้วย ส่วนร้านอาหารก็มีหลายประเภท หลายร้านให้เลือก รับรองว่าไม่น่าเบื่อ รวมไปถึงบาร์ต่างๆ บนเกาะก็มีให้บริการนักท่องเที่ยวเช่นกัน

พิกัดของ เกาะสีชัง
ตั้งอยู่ที่ทะเลในอ่าวไทย นอกชายฝั่งของอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
#4

เกาะกุลา ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสวรรค์อีกที่หนึ่งของชุมพรเลยก็ว่าได้ ด้วยบรรยากาศรอบๆ ที่มีความสวยงาม และสงบเงียบสุดๆ ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจ จนอยากจะมาเที่ยวที่นี่อีกครั้งให้ได้ แม้ว่าจะเป็นเกาะที่อยู่ในฝั่งอ่าวไทย แต่เรื่องความสวยงามแล้ว บอกเลยว่าไม่ได้แพ้ทะเลอันดามันแม้แต่น้อย วันนี้เราจะพาทุกท่านมาดูรายละเอียดของเกาะแห่งนี้กัน เผื่อว่าท่านใดอยากจะลองไปสัมผัสบรรยากาศด้วยตัวเองดูบ้าง

กิจกรรมที่น่าสนใจ
เมื่อท่านมาถึงที่ เกาะกุลา สิ่งแรกที่ทุกท่านจะต้องตะลึง ก็คือความงามของเกาะ น้ำที่นี่ต้องบอกว่าใสมาก จนมองเห็นแนวปะการัง และสัตว์น้ำใต้ทะเลกันเลยทีเดียว น้ำที่เกาะกุลาจะเป็นสีเขียวแบบมรกต ให้ความรู้สึกที่แปลกในอีกรูปแบบหนึ่ง ส่วนชายหาดก็มีทรายที่ขาวสะอาดตลอดแนว เป็นทรายที่มีเม็ดละเอียด เวลาที่เดินเท้าเปล่าไปบนผืนทราย คุณจะรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
และกิจกรรมอีกหนึ่งอย่างที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ ก็คือการดำน้ำชมปะการังใต้น้ำ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไม่พลาดกิจกรรมนี้ ซึ่งการดำน้ำที่เกาะกุลา ก็ไม่มีอะไรน่าห่วง แม้ว่าท่านจะยังไม่เคยดำน้ำมาก่อน ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะว่ามีผู้เชี่ยวชาญมาคอยบอกคอยแนะนำให้อยู่แล้ว ส่วนธรรมชาติใต้น้ำก็สวยงามไม่แพ้ที่เกาะไหนบนโลกนี้เลยแหละ ยิ่งช่วงหน้าร้อน จะมีนักท่องเที่ยวมาดำน้ำชมปะการังเยอะเป็นพิเศษ
นั่งชมวิว ท่านใดที่ชอบความสงบ ไม่อยากจะวุ่นวายกับคนอื่น ท่านก็สามารถหามุมสงบๆ ส่วนตัว นั่งชมวิว ชมความสวยงามของเกาะแห่งนี้ได้เช่นกัน โดยหาดทางด้านตะวันตก จะมีมุมสงบๆ ให้เลือกนั่งได้ตามความชอบ คุณจะรู้สึกผ่อนคลาย และฟินสุดๆ เมื่อได้ขึ้นมานั่งพักที่นี่ ยิ่งถ้าเป็นช่วงเช้าและช่วงเย็น บรรยากาศจะดีมาก เพราะว่าอากาศไม่ร้อน เหมาะกับการนั่งเล่น เดินเล่นที่สุดแล้ว

การเดินทาง
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมายังจังหวัดชุมพรได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถโดยสาร เครื่องบิน หรือว่ารถยนต์ส่วนตัว เมื่อมาถึงที่ทำการอุทยานแล้ว ท่านต้องนั่งเรือไปยังเกาะกุลาอีก 10 นาที นักท่องเที่ยวสามารถจองเที่ยวเรือล่วงหน้าได้ หรือจะเช่าแบบเหมาลำก็ได้เช่นกัน

ค่าบริการในการเข้าชม
ฟรี

ที่พักและอาหาร
บนเกาะกุลามีที่พักให้เลือกทั้งแบบบ้านพัก รีสอร์ท และแบบกางเต้นท์ ถ้าเป็นแบบบ้าน จะนอนได้หลายคนหน่อย แต่ถ้ามาคนเดียวหรือเป็นคู่ ท่านสามารถกางเต้นท์นอนได้เลย จะมีสถานที่ที่เจ้าหน้าจัดไว้ให้อยู่แล้ว ซึ่เป็นลานสำหรับกางเต้นท์โดยเฉพาะ

พิกัดของ เกาะกุลา
ตั้งอยู่ที่ตำบลด่านสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร
#5

ไลออน ไบลีย์ ปีกขวาทีมชาติจาไมก้าของ แอสตัน วิลล่า
ทีมชาติ : จาไมก้า 24 นัด – 4 ประตู (2019-?)
สโมสรปัจจุบัน : แอสตัน วิลล่า 58 นัด – 7 ประตู (2021-?)

เลออน ไบลีย์ (Leon Bailey) เกิดวันที่ 9 สิงหาคม 1997 ที่ประเทศจาไมก้า เริ่มต้นเล่นฟุตบอลระดับเยาวชน กับสโมสร Phoenix All Stars (2009-2011) ต่อด้วย Liefering (2011-2013) ต่อด้วย AS Trenčín (2013-2015) แล้วในฤดูกาล 2015/16 ได้สัญญาอาชีพกับ เกงค์ (เบลเยี่ยมลีก) ลงเล่น 42 นัดยิง 7 ประตู ฤดูกาลต่อมายิงอีก 9 ประตูจาก 35 นัด ก่อนจะถูก เลเวอร์คูเซ่น ซื้อตัวไปร่วมทีมในครึ่งฤดูกาลหลัง ลงเล่นบุนเดสลีก้า 8 นัด

ฤดูกาล 2017/18 เลออน ไบลีย์ เป็นแกนหลักของ เลเวอร์คูเซ่น อย่างเต็ม ลงเล่น 34 นัดรวมทุกรายการ ยิง 12 ประตู ติดทีมยอดเยี่ยมของบุนเดสลีก้าซีซั่นนั้น แล้วอีก 2 ฤดูกาลถัดมายิงอีก 12 ประตูจาก 72 นัดรวมทุกรายการ แต่ยังไม่สามารถพาทีม ประสบความสำเร็จได้

ฤดูกาล 2020/21 เลออน ไบลีย์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ยิงใน บุนเดสลีก้า 9 ประตู จ่าย 9 แอสซิสต์ จาก 30 นัด ช่วยให้ เลเวอร์คูเซ่น จบที่ 6 นอกจากนั้นแล้ว ยังยิงอีก 5 ประตู จ่าย 2 แอสซิสต์ จาก 8 นัดในยูโรป้าลีก พาทีมเข้ารอบน็อคเอาท์ ก่อนจะแพ้ ยัง บอยส์ 3-4 และ 0-2 จอดป้ายแค่รอบนั้น ซึ่งผลงานดังกล่าว ทำให้ แอสตัน วิลล่า ซื้อตัว ไบลีย์ไปร่วมทีมในฤดูกาลต่อมา

ฤดูกาล 2021/22 เลออน ไบลีย์ เริ่มต้นได้ไม่ดีนักกับ แอสตัน วิลล่า ได้ลงเล่นพรีเมียร์ลีกแค่ 18 นัด (ตัวจริง 7 สำรอง 11) ยิงได้แค่ประตูเดียวในนัดชนะ เอฟเวอร์ตั้น 3-0 แต่ในฤดูกาล 2022/23 ไบลีย์กลายเป็นตัวเลือกแรกของแนวรุก ผ่านไปถึงวันที่ 3 กันยายน 2022 (พรีเมียร์ลีก นัดที่ 6) เขายิง 1 สกอร์ใส่ แมนฯ ซิตี้ (เสมอ 1-1) แล้วในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2022 (พรีเมียร์ลีก นัดที่ 16) เขายิง 1 ประตูใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด (ชนะ 3-1) จบฤดูกาลนั้นด้วยการยิง 5 ประตู จ่าย 4 แอสซิสต์ จาก 36 นัดรวมทุกรายการ

ฤดูกาล 2023/24 เลออน ไบลีย์ ยังอยู่กับ แอสตัน วิลล่า ลงเล่น 3 นัด ยิง 2 จ่าย 1 แอสซิสต์

สำหรับการรับใช้ชาติ เลออน ไบลีย์ เปิดตัวกับ ทีมชาติจาไมก้า วันที่ 18 มิถุนายน 2019 ในฟุตบอลโกลด์ คัพ ที่เอาชนะ ฮอนดูรัส 3-2 ซึ่งทัวร์นาเมนต์นั้น ไบลีย์ได้ลงเล่น 4 จาก 5 นัด (ตัวจริง 4) พาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะแพ้ สหรัฐ 1-3 จอดป้ายแค่รอบนั้น

7 กันยายน 2019 ไบลีย์ ยิงประตูแรกในนามทีมชาติ ในเกมคอนคาเคฟ เนชั่นลีก ที่เอาชนะ Antigua 6-0 จากนั้นยังได้รับโอกาสเรื่อยๆ แต่ไม่ค่อยถูกใช้งานในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ได้เล่นเพียงแค่ 4 จาก 14 นัด
#6

กองหน้าที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงที่สุด และทำผลงานให้กับทีมได้อย่างยอดเยี่ยม ก็คือ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เป็นดาวรุ่งที่กำลังมาแรงมาก ตอนนี้กำลังเล่นอยู่กับอาร์เซนอล และทำผลงานดีต่อเนื่องตลอดมา จนอาร์เซนอลกลายเป็นทีมที่น่ากลัวมากยิ่งขึ้นอีก

ชื่อเต็ม กาเบรียล มาร์ติเนลลี่
วันเกิด 18 มิถุนายน พ.ศ. 2544
สถานที่เกิด ประเทศ บราซิล
ส่วนสูง 178 เซนติเมตร
ตำแหน่ง กองหน้า

เส้นทางของการเป็นนักฟุตบอลของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่

ชีวิตในการเป็นนักฟุตบอลของ มาร์ติเนลลี่ เริ่มต้นเมื่อตอนเด็กเช่นกัน ด้วยการเข้าร่วมกับสโมสรเยาวชนที่ โครินเธียนส์ โดยอยู่เป็นเวลาถึง 4 ปี ตั้งแต่ปี 2010-2014 หลังจากนั้นอีก 4 ปี ก็ได้ย้ายไปเล่นที่ อิตัวโน่ เข้าก็ได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ๆได้สำเร็จ เล่นให้ตั้งแต่ปี 2014-2018 ตัวของ มาร์ติเนลลี่ ไม่เคยมองข้ามโอกาสสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอาชีพการค้าแข้งของตนเองแม้แต่ครั้งเดียว เขาเคยได้เข้าไปทดสอบฝีเท้ากับทีมยักษ์ใหญ่ แมน ยูไนเต็ด และ บาร์เซโลน่า ด้วย แต่ว่ายังไม่เข้าตาทั้งสองทีม หลังจากที่ไม่ไม่ผ่านการทดสอบ มาร์ติเนลลี่ ก็หันกลับมาเล่นเอาจริงเอาจริงให้กับ อิตัวโน่ อีกครั้ง แล้วหลังจากนั้นอีก 2 ปี ทีม อาร์เซนอล ก็ได้ติดต่อมาขอซื้อตัว ด้วยค่าตัวมูลค่า 6 ล้านปอนด์

มาร์ติเนลลี่ ได้ลงเล่นให้กับทัพปืนใหญ่เมื่อปี 2019 ในเดือน สิงหาคม แต่ฟอร์มยังไม่คงที่เท่าไหร่ หลังจากนั้น 2 เดือน ในเดือนกันยายน มาร์ติเนลลี่ ก็สามารถทำประตูแรกของตัวเองได้สำเร็จ หลังจากที่ฟอร์มของตัวเองเริ่มกลับมา เขาก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงตั้งแต่ตอนนั้นมาเรื่อยๆ เขาลงเล่นให้กับทีมอาร์เซนอลกว่า 91 เกม และทำประตูได้ทั้งหมด 26 ประตู

ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ เขากลายเป็นกองหน้าเนื้อหอมในทันที แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะย้ายไปที่ไหน แฟนบอลปืนใหญ่ต่างให้การยอมรับกองหน้าหนุ่มคนนี้ ไม่เพียงแต่ชื่อเสียงอย่างเดียวเท่านั้น ตัวของ มาร์ติเนลลี่ ยังสามารถกวาดรางวัลต่างๆ มาครองได้มากมาย ด้วยจุดเด่นสไตล์การเล่นของเขาที่มีความรวดเร็ว ว่องไว มีไหวพริบและตัดสินใจได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้สามารถจบสกอร์ได้เกือบทุกครั้ง ส่วนผลงานในระดับทีมชาติ ยังไม่ดีเท่าที่ควร และทีมบราซิล ก็ยังไมได้แชมป์อะไร แต่ มาร์ติเนลลี่ ก็พร้อมที่จะรับใช้ทีมชาติอยู่เสมอ ตั้งแต่เกมยูโรในปี 2020 และเป็นตัวจริงในทีมชุดฟุตบอลโลกในปี 2022 มาร์ติเนลลี่ ยังมีเวลาในการรับใช้ทีมชาติได้อีกนาน

รางวัลส่วนตัว

•    กัมเปโอนาโต เปาลิสตานักเตะดาวรุ่งแห่งปี : 2019
•    ทีมกัมเปโอนาโต เปาลิสตาแห่งปี : 2019
#7

ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ
ทีมชาติ : อาร์เจนติน่า 22 นัด ยิง 7 ประตู (2021-?)
สโมสรปัจจุบัน : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 53 นัด ยิง 18 ประตู (2022-?)


ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ (Julián Álvarez) เกิดวันที่ 31 มกราคม 2000 ที่ประเทศอาร์เจนติน่า เริ่มต้นเล่นฟุตบอลระดับเยาวชน กับอคาเดมี่ของสโมสร Atlético Calchín ช่วงปี 2014-2016 จากนั้นย้ายไปอยู่ในอคาเดมี่ของ ริเวอร์เพลท ในปี 2016 แล้วถูกดันขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ในปี 2019 แต่ยังไม่ใช่ตัวหลัก

ระหว่างปี 2018-2020 อัลวาเรซ เล่นให้กับทีมเยาวชนของ ริเวอร์เพลท รวมถึงการเรียกไปใช้งานในทีมชุดใหญ่ ได้ลงเล่นเกมลีก 22 นัด ก่อนจะมาเป็นตัวหลักเต็มตัวในฤดูกาล 2021 ลงเล่น 46 นัดรวมทุกรายการ ยิงได้ 24 ประตู พาทีมคว้าแชมป์ลีกอาร์เจนติน่า ในฐานะดาวซัลโวของสโมสรและของลีก นี่ถือเป็นแชมป์แรกในฐานะตัวหลัก หากนับก่อนหน้านั้น มีแชมป์ โคปา อาร์เจนติน่า 2019 แชมป์ซุปเปอร์ โคปา อาร์เจนติน่า 2019 และแชมป์ โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส 2018 ซึ่งตอนนั้น อัลวาเรซยังเป็นแค่ตัวเลือกรอง

มกราคม 2022 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซื้อตัว ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ไปร่วมทีม ด้วยสัญญา 5 ปี พร้อมกับปล่อยให้ ริเวอร์เพลท ยืมตัวไปใช้งานจนจบฤดูกาล 2022 ของลีกอาร์เจนติน่า อัลวาเรซทิ้งท้ายด้วยการยิง 18 ประตู จาก 26 นัดรวมทุกรายการ หนึ่งในนั้นคือการยิงคนเดียว 6 ประตู ในเกมโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ที่เอาชนะ Alianza Lima 8-1

กรกฎาคม 2022 ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ย้ายสู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างเป็นทางการ เปิดตัวนัดแรกในวันที่ 30 กรกฎาคม 2022 เขายิง 1 ประตู ในเกมคอมมูนิตี้ ชิลด์ ที่ทีมแพ้ ลิเวอร์พูล 1-3 จากนั้นอีก 7 วันให้หลัง อัลวาเรซ ได้ลงเล่นพรีเมียร์ลีก นัดแรก นั่นเป็นเกมแรกของฤดูกาล 2022/23 เขาลงไปในช่วง 12 นาทีสุดท้าย แทนที่ของ  เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เจ้าของ 2 ประตูในเกมนั้น แล้วทีมก็ชนะ เวสต์แฮม 2-0

31 สิงหาคม 2022 พรีเมียร์ลีก 2022/23 นัดที่ 5 ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ลงสนามเป็นตัวจริง โดยยืนเป็นสามแนวรุกร่วมกับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ และ ฟีล โฟเด้น ซึ่งเขายิง 2 ประตู ช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ ชนะ ฟอเรสต์ 6-0 เป็นการยิงประตูในพรีเมียร์ลีกในสีเสื้อเรือใบเป็นครั้งแรก

หลังจากนั้น ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ยังได้รับโอกาสเรื่อยมา แต่จะอยู่ในฐานะตัวเลือกรองถัดจาก เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ แต่เมื่อได้โอกาสลงเล่นแทน หรือลงเล่นร่วมกัน อัลวาเรซ มักจะทำผลงานได้ดีเสมอ จบฤดูกาล 2022/23 อัลวาเรซ ลงเล่น 49 นัดรวมทุกรายการ ยิงได้ 17 ประตู จ่าย 5 แอสซิสต์ มีส่วนในการพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก (ลงเล่นตัวจริง 13 สำรอง 18) แชมป์ยูฟ่า แชมป์เปียนส์ลีก (ลงเล่นตัวจริง 4 สำรอง 6) และแชมป์เอฟเอคัพ (ลงเล่นตัวจริง 4 สำรอง 1)

ฤดูกาล 2023/24 ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ลงสนามให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแล้ว 4 นัดรวมทุกรายการ ยิง 1 ประตู จ่าย 1 แอสซิสต์
#8

ประเทศไทยเรานับได้ว่าเป็นประเทศที่ชื่นชอบในการชมและเชียร์ฟุตบอลอย่างมากไม่แพ้ชาติใดในโลก แล้วฟุตบอลลีกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยทิ้งลีกอื่นๆแบบขาดลอย เพราะนี่คือลีกที่มีความคุ้นเคยมากที่สุดกันมาอย่างยาวนาน แล้วติดตามเชียร์กันแบบรุ่นต่อรุ่น จนล่าสุดสำนักโพลชื่อดังที่สุดแห่งหนึ่งของไทยอย่าง นิด้าโพล ได้ออกสำรวจผู้คนทั่วประเทศแบบสุ่มในหัวข้อว่าชื่นชอบทีมฟุตบอลทีมไหนมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกในปี 2023

สำหรับผลโพลที่ออกสำรวจนั้นอันดับ 1 ก็คือ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมขวัญใจแฟนบอลที่มีฐานแฟนๆอยู่ทั่วทุกมุมโลกที่ว่ากันว่ามากที่สุดในโลกอีกด้วย รองลงมาอันดับ 2 ได้แก่ ลิเวอร์พูล ที่มีเปอร์เซ็นไม่ต่างกันนัก ตามมาด้วย เชลซี กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่วนอันดับทั้งหมดที่ทางนิด้าโพลทำออกมาจะเป็นยังไงนั้น ก็ไปดูกันได้เลย

สรุปผลโพลของนิด้าว่าทีมฟุตบอลทีมไหนที่คนไทยเชียร์มากที่สุด

อันดับ 1 - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 34.59%
อันดับ 2 - ลิเวอร์พูล 31.79 %
อันดับ 3 -เชลซี 7.09%
อันดับ 4 - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5.72%
อันดับ 5 - อาร์เซน่อล 5.27%
อันดับ 6 ร่วม – นิวคาสเซิ่ล, เอฟเวอร์ตัน, ท็อตแน่ม ฮอตสปอร์ส, ฟูแล่ม, น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และ เบิร์นลีย์
อันดับ 7 - ไม่ได้ชอบทีมอะไรเป็นพิเศษ 14.17%

จากโพลของนิด้าทำให้เห็นว่าแมนยูยังคงเป็นทีมยอดนิยมมากที่สุดอย่างไม่เปลี่ยนแปลงแม้ว่าผลงานความสำเร็จในช่วงหลายปีหลังจะไม่ได้เยอะเหมือนกับแมนซิตี้หรือว่าลิเวอร์พูล แต่จากฐานแฟนบอลที่หนาแน่นมานานทำให้ยังคงยืนอยู่บนอันดับ 1 ส่วนที่น่าตกใจไม่น้อยคือคนไทยที่เชียร์อาร์เซน่อล ดูลดน้อยถอยลงจากเดิมเยอะมากๆ จนโดยหลายทีมแซงหน้าขึ้นไป เพราะในอดีตแล้วนี่คือทีมที่ช่วงชิงความสำเร็จตีคู่กับฝั่งแมนยูมาโดยตลอดนั่นเอง แต่ทว่าคนไทยไม่ได้ติดตามเยอะเท่าที่ควร

นอกจากนั้นจากนิด้ายังได้เผยผลโพลอีกอย่างก็คือ คนไทยชื่นชอบทีมฟุตบอลทีมไหนในประเทศตัวเองมากที่สุด โดยผลทั้ง 5 อันดับแรกมีดังนี้

1. ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 36.13%
2. ทีมการท่าเรือ เอฟซี 12.49 %
3. ทีมเมืองทอง ยูไนเต็ด 11.67 %
4. ทีมบีจี ปทุม ยูไนเต็ด 4.46 %
5. ทีมชลบุรี เอฟซี 3.79 %

จากความสำเร็จที่ต่อเนื่องพร้อมด้วยมาตรฐานที่แข็งแกร่งในช่วงหลายปีหลังมานี้ของ บุรีรัมย์ จึงไม่แปลกใจที่จะกลายเป็นทีมขวัญใจคนไทยส่วนใหญ่ ที่ได้ติดตามเชียร์มากที่สุดในปี 2023 ไปนั่นเอง
#9

ลิโอเนล เมสซี่ พอพูดถึงชื่อนี้ออกมาไม่ว่าใครก็จะต้องรู้จักแน่นอน เพราะนี่คือนักเตะที่หลายต่อหลายคนยกให้เป็นเบอร์ 1 ตลอดกาลตั้งแต่โลกนี้รู้จักฟุตบอลกันไปแล้ว แซงหน้ายอดนักเตะอย่าง ดิเอโก้ มาราโดน่า หรือ เปเล่ ไปเรียบร้อย ขณะที่คู่แข่งตลอดกาลอย่าง คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ เขาก็ยังถูกยกให้เหนือกว่า ซึ่งบทความนี้จะมาย้อนดูจุดเริ่มต้นของกองหน้าจอมเทคนิคคนนี้กันว่าเริ่มต้นมายังไง

จุดเริ่มต้น
    เมสซี่ เปิดในประเทศอาเจนติน่า แล้วเขาเกือบที่จะไม่ได้เล่นฟุตบอลแล้วในวัยเด็ก เหตุผลเป็นเพราะว่าตัวเล็กเกินไปกับเพื่อนๆในวัยเดียวกัน แต่ด้วยพรสวรรค์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด จนความสามารถไปเตะตา นีเวลส์ โอลด์ บอย ทีมดังในบ้านเกิด ที่เริ่มเข้าไปฝึกฟุตบอลอย่างเป็นทางการตั้งแต่เล็ก กระทั่งฝีเท้าพัฒนาขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว

จุดเปลี่ยนสำคัญสู่ความยิ่งใหญ่

    จุดเปลี่ยนสำคัญของ เมสซี่ คือการย้ายมาอยู่กับ บาร์เซโลน่า เมื่อปี 2001 ซึ่งเข้ามาช่วงแรกเป็นเพียงนักเตะระดับเยาวชนเท่านั้น ก่อนจะค่อยๆยกระดับฝีเท้าขึ้นทุกวันๆ กระทั่งปี 2005 ได้รับโอกาสลงเล่นชุดใหญ่ และนี่คือวันที่โลกของฟุตบอลได้กำเนิดยอดมนุษย์คนใหม่ขึ้นมา เพราะหลังจาก เมสซี่ ก้าวขึ้นมานั้นได้รับการจับตามองทันทีจากสื่อต่างๆ เพราะนี่คือนักฟุตบอลที่เยี่ยมยอดมากๆ จนถูกยกไปเปรียบเทียบกับ มาราโดน่า แล้วเขาก็ได้พิสูจน์ตัวเองให้เห็นถึงความสุดยอด พาทีมกวาดแชมป์เป็นว่าเล่น สร้างสถิติที่หากใครมาทำลายลงได้ยาก ครองรางวัลบังลงดอร์ได้มากที่สุดตลอดกาล 7 สมัย แล้วแชมป์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างฟุตบอลโลก เมสซี่ ก็พาอาเจนติน่าประสบความสำเร็จคว้ามาได้ด้วยผลงานที่โดดเด่นของเขา และจากสิ่งที่เขาคนนี้ได้สร้างมาตลอดหลายปี ได้ถูกยกให้เป็นนักเตะเบอร์ 1 ของโลกตัวจริงตลอดกาลไปแล้ว

ปัจจุบัน

ปัจจุบันปี 2023 เมสซี่ ในวัย 36 ปี ค้าแข้งอยู่กับ อินเตอร์ ไมอามี่ ในเมเจอร์ลีก อเมริกา ซึ่งมีเจ้าของสโมสรคือ เดวิด เบ็คแฮม ไอดอลของนักฟุตบอลหลายคน แล้วถึงจะอยู่ในช่วงปลายอาชีพนักฟุตบอลแล้ว แต่ว่า เมสซี่ ยังคงไว้ถึงความเยี่ยมยอด ยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ จนพาทีมมีผลงานที่ดีขึ้นต่อเนื่อง และพึ่งจะคว้าแชมป์แรกของสโมสรไปหมาดๆ ทั้งๆที่ไม่เคยทำได้มาก่อน เรียกได้ว่านี่คือการเสริมทัพที่ดีที่สุดของสโมสรเลยทีเดียว

เชื่อว่าในอีก 50 ปี หรือ 100 ปีข้างหน้า ชื่อของ ลิโอเนล เมสซี่ ก็จะยังคงถูกพูดถึงในฐานะนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาลที่โลกเคยมีมาอย่างแน่นอน
#10

ล่าสุดได้มีการเปิดเผยจากเว็บไซต์ชื่อดังของโลกด้านการท่องเที่ยว ถึงหัวข้อของสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไปเที่ยวมากที่สุดในโลกในรอบ 1 ปีปัจจุบันออกกมา ว่ามีเมืองไหนกันบ้าง โดยได้คัดเหลือออกมาอยู่ 20 อันดับแรกเท่านั้น ที่มีนักท่องเที่ยวมากสุดในปี 2023 และอันดับ 1 ไม่ใช่ที่ไหนไกล ก็คือ กรุงเทพมหานคร ของประเทศไทยนั่นเอง ที่ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมากถึง 22.78 ล้านคน ระหว่างปี 2022-2023 เลยทีเดียว

TOP 10 สถานที่ที่นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยียนมากที่สุดในโลก 2023

อันดับ 10 เมืองอันตัลยา ประเทศตุรี มีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 12.41 ล้านคน
อันดับ 9 เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 12.93 ล้านคน
อันดับ 8 เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย มีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 13.40 ล้านคน
อันดับ 7 เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา มีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 13.60 ล้านคน
อันดับ 6 เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 13.79 ล้านคน
อันดับ 5 เมืองสิงคโปร์ ประเทศสิงคโปร์ มีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 14.67 ล้านคน
อันดับ 4 เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 15.93 ล้านคน
อันดับ 3 เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 19.09 ล้านคน
อันดับ 2 เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 19.10 ล้านคน
อันดับ 1 เมืองกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย มีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 22.78 ล้านคน

สำหรับกรุงเทพนั้นเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเป็นอย่างมาก เป็นเมืองที่มีทุกอย่างครบครัน ทั้งการเดินทางที่สะดวกง่ายดายด้วยระบบขนส่งที่รองรับทุกอย่าง, มีสถานที่เที่ยวหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่สุดทันสมัยอยู่หลายแห่งที่มีให้เลือก, ค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมาก หากเป็นชาวยุโรปหรืออเมริกา สามารถใช้จ่ายได้อย่างสบายๆ, มีวัดวาอารมที่สวยงามให้เคารพบูชากราบไหว้ และที่โด่งดังอย่างมากคือเรื่องของรสชาติอาหาร ที่นักท่องเที่ยวต่างยอมรับว่าอาหารไทยนั้นสุดยอดอย่างแท้จริง มีครบทุกรสชาติตามที่ต้องการ นี่เป็นเพียงสิ่งคร่าวๆเท่านั้น ซึ่งกรุงเทพยังมีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะ ที่ไม่แปลกเลยในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

นอกจากเอกลักษณ์เฉพาะตัวหลายอย่างของกรุงเทพที่หาไม่ได้จากเมืองไหนของโลกแล้ว ที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางของประเทศไทยในการเดินทางไปเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆทั่วประเทศ หรือว่าเดินทางไปนอกประเทศอีกด้วย เป็นสถานที่รองรับนักท่องเที่ยวได้ครบจบในที่เดียวที่ครบที่สุด ยังไม่รวมถึงช่วงเทศกาลที่โด่งดังเอามากๆอย่าง สงกรานต์ ที่หลายประเทศนำไปเลียนแบบยังประเทศตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นนักท่องเที่ยวหลายคนก็ยังยกให้ สงกรานต์ ในไทยคือที่ 1 สุดยอดที่สุด อย่างยิ่งในกรุงเทพเองที่พอถึงช่วงนี้ทีไร นักท่องเที่ยวต่างตบเท้าเข้ามากันอย่างล้นหลาม